ฟิลเตอร์คืออะไร

nidnoiit, nidnoiit.com, นิดหน่อยไอที, นิดหน่อย ไอที, ร้านนิดหน่อย, ขาย, จำนำ, ขายฝาก, มือสอง, สินค้ามือสอง, สินค้าไอที, โทรศัพท์มือถือ, Smartphone, iPhone, iPad, Tablet, Samsung, กล้องDSLR, กล้องmirrorless, โน๊ตบุ๊ค, Notebook, คอมพิวเตอร์, PC, ทีวี, TV, เครื่องเสียง, เกมPSP4, Nintendo, Gopro, iPadPro, IPhone4, IPhone5, IPhone5s, IPhone6, IPhone6s, IPhone7, IPhone8, IPhonex, IPhonexs, IPhonexsmax, IPhonexr, IPhone6plus, IPhone7plus, IPhone8plus, CANON, NIKON, LEICA, Fuji, SONY, OLYMPUS, PANASONIC, CASIO, Apple, Samsung, OPPO, Vivo, Huawei, Xiaomi Mi, Nokia, ASUS, LG, Wiko

ฟิลเตอร์(Filter) ถือเป็นอุปกรณ์ในการถ่ายภาพอย่างหนึ่งที่อยู่คู่กับช่างภาพมาเนิ่นนานตังแต่ยุคฟิล์มสมัยก่อนมาจนยุคดิจิตอลในปัจจุบัน เวลาที่เนิ่นนานทำให้ฟิลเตอร์ถูกทำขึ้นมาหลายแบบมากโดยจะมีทั้งแบบกลมและแผ่นสี่เหลี่ยม แบบที่นิยมใช้กันคือแบบกลมซึ่งใช้ติดไว้บริเวณหน้าเลนส์แต่จะติดเพื่ออะไรขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเตอร์นั้นๆ ซึ่งผมขอแบ่งประเภทของฟิลเตอร์ออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆคือ

  • ฟิลเตอร์สำหรับป้องกันหน้าเลนส์ เช่น UV Filter, Protector Filter
  • ฟิลเตอร์ที่ให้ผลพิเศษ เช่น CPL Filter, ND Filter, Star Effect,...

ฟิลเตอร์สำหรับป้องกันหน้าเลนส์

ฟิลเตอร์ที่ใช้ป้องกันหน้าเลนส์เป็นประเภทที่แนะนำให้ใส่ติดหน้าเลนส์เอาไว้ตลอดชนิดที่ว่าตั้งแต่แกะกล่องออกมาได้เลยยิ่งดีเพราะมันช่วยปกป้องหน้าเลนส์เอาไว้ไม่ให้ได้รับอันตราย หากเราทำหน้าเลนส์กระแทกฟิลเตอร์แตกเราก็แค่เปลี่ยนฟิลเตอร์อาจราคา 300-1,000 บาทซึ่งถูกกว่าการเปลี่ยนเลนส์ชิ้นหน้าแน่นอน รวมถึงในการใช้งานปกติเลนส์จะต้องเจอละอองน้ำและฝุ่นต่างๆ การเช็ดทำความสะอาดหน้าเลนส์จะต้องใช้ความระมัดระวังสูงระดับหนึ่งแต่จะง่ายกว่าไหมถ้าเราแค่เช็ดฟิลเตอร์แทนซึ่งไม่ต้องใช้ความระมัดระวังอะไรมากนัก

การเลือกซื้อฟิลเตอร์สำหรับป้องกันหน้าเลนส์

ฟิลเตอร์สำหรับป้องกันหน้าเลนส์หลักๆจะมี 2 แบบด้วยกันคือ UV Filter และ Protector Filter ทั้งสองนี้คล้ายกันมากคือใช้เพื่อการป้องกันหน้าเลนส์ต่างกันตรงที่ UV Filter จะมีการป้องกันแสง UV ด้วย โดยทั้ง UV Filter และ Protector Filter เน้นความใสเพื่อให้แสงผ่านได้มากที่สุด แต่จะให้แสงผ่านได้มากแค่ไหนและป้องกันหน้าเลนส์ได้ดีแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสเปคที่จะสูงขึ้นไปควบคู่กับราคาของฟิลเตอร์

UV Filter หรือ Protector Filter

เป็นคำถามที่ถกกันไม่รู้จบว่าควรเลือกแบบไหนดี แต่ในปัจจุบันยุคดิจิตอลผมแนะนำให้ทุกคนเลือก Protector Filter ครับด้วยเหตุผลว่า Protector Filter เน้นด้านความใสและการป้องกันเป็นหลัก และปัจจุบันเซนเซอร์กล้องมีตัวกรองแสง IR/UV อยู่แล้วแสง UV จึงแทบไม่มีผลอะไรกับกล้องดิจิตอลเลย ยุคที่ UV Filter นิยมใช้กันคือสมัยฟิล์มเพราะเมื่อแสง UV เข้าไปกระทบฟิล์มภาพที่ได้จะไม่สดใสและเสีย Contrast เขาจึงออกแบบฟิลเตอร์มาช่วยตัดแสง UV ออก

ฟิลเตอร์ที่ให้ผลพิเศษ

ต่อไปนี้คือฟิลเตอร์ที่ไม่ได้ทำหน้าที่แค่ป้องกันหน้าเลนส์เท่านั้นแต่ยังเกิดมาเพื่อให้ผลพิเศาต่างๆเกิดขึ้นกับภาพอีกด้วย ต้องบอกก่อนว่าปัจจุบันฟิลเตอร์เหล่านี้หายกันไปเยอะมากแล้วครับ เพราะเดี๋ยวนี้ในกล้องเองก็ใช้ Software สร้างผลแบบเดียวกันได้เช่น Star Effect Filter หรือ Color Filter สีต่างๆ ปัจจุบันเหลือใช้กันหลักๆแค่ CPL Filter และ ND Filter ซึ่งยังไม่สามารถใช้ Software สร้างผลที่เหมือนกันได้ หรือถึงทำได้ก็ทำยาก ใช้เวลานาน และไม่ได้เหมือนซะทีเดียว

  • CPL Filter เป็นฟิลเตอร์ที่จะช่วยตัดแสงโพลาไรซ์(Polarizers)ออก อธิบายอย่างสั้นๆปกติแล้วเมื่อแสงกระทบวัตถุจะเกิดการสะท้อนกระจายออกในทุกทิศทาง แสงสะท้อนเหล่านี้ทำให้สีของวัตถุอ่อนลงไม่อิ่มสดใส การใช้ฟิลเตอร์ CPL ตัดแสงสะท้อนเหล่านี้ออกไปจะทำให้วัตถุมีสีที่อิ่มสดใสมากขึ้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ท้องฟ้า เพระาท้องฟ้ามีแสงสะท้อนกระจายอยู่มากเมื่อตัดออกจะทำให้ท้องฟ้ามีสีน้ำเงินเข้มขึ้น รวมทั้งเรายังสามารถใช้ฟิลเตอร์ CPL ตัดแสงสะท้อนบนผิวน้ำหรือแสงสะท้อนบนผิววัตถุเงาๆและกระจกได้ด้วย อย่างการถ่ายภาพผ่านกระจกหากเราใช้ CPL จะสามารถตัดเงาตัวเราที่สะท้อนในกระจกออกได้
  • ND Filter ฟิลเตอร์ ND มีหน้าที่หลักเลยคือ ตัดแสง ฟิลเตอร์นี้เปรียบเสมือนแว่นกันแดดมันทำให้แสงผ่านเข้ากล้องน้อยลง เพื่อทำให้เราได้ผลของความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าเช่น การถ่ายภาพน้ำตกให้น้ำไหลยืดเบลอจนดูพริ้วๆเกิดจากการใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้า ซึ่งการจะใช้ความเร็วชัตเตอร์ช้าเป็นระดับ 3-5 วินาทีกลางแดดจัดจำเป็นต้องพึ่งฟิลเตอร์ ND ในการตัดแสงให้เข้ากล้องน้อยลงเพราะหากไม่ใช้แสงจะเข้ากล้องมากเกินไปจนภาพขาวทั้งใบ

ขอบคุณข้อมูลจาก zoomcamera

Copyright © 2019-2021. All rights reserved.
โทรเลย